บริการของเรา - ทรีตเมนต์
การทำทรีตเมนต์คืออะไร ?
เมื่อผิวเริ่มมีอายุมากขึ้น เราจะสังเกตเห็นได้ถึงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของผิวที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ การทำทรีตเมนต์ (Treatment) เป็นกระบวนการในการดูแลและบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึกที่สามารถช่วยชะลอและป้องกันปัญหาผิว ซึ่งประกอบด้วยหลายขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่ การนวดหน้า การมาส์กหน้า การผลักวิตามินเข้าผิวด้วยความเย็น การทาครีมบำรุง เพื่อผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้ผิวหน้ากระชับ ดูกระจ่างใสขึ้น และแก้ไขปัญหาผิวหน้าต่างๆ บนใบหน้าได้เป็นอย่างดี
การทำทรีตเมนต์ช่วยอะไรได้บ้าง ?
การทำทรีทเม้นท์จะช่วยบำรุงผิวหน้าได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ช่วยบำรุงผิวหน้าที่เหนื่อยล้าและหมองคล้ำจากการโดนมลภาวะต่างๆ การแต่งหน้าหนักๆ ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าได้พักผ่อนและผ่อนคลายความเหนื่อยล้าบนใบหน้า
อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของผิว การไหลเวียนของเลือด ผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบนผิวหน้า ลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ลดการเกิดสิวชนิดต่างๆ ได้ ทำให้มีผิวหน้าที่กระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ผิวหน้าเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน
ข้อดีของการทำทรีตเมนต์
- บำรุงผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกและครอบคลุม
- สามารถบำรุงผิวได้หลายตัวภายในครั้งเดียว
- สร้างความผ่อนคลายและลดความเครียดของเซลล์ผิว
- ได้ฟื้นฟูผิวหน้าที่เสื่อมสภาพอย่างจริงจัง
- ทำให้ผิวดูกระจ่างใส เปล่งปลั่ง อย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยชะลอการเกิดสัญญาณแห่งวัย อย่างเช่น ริ้วรอย ร่องลึก
- ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และเห็นผลชัดเจนมากกว่าถ้าเทียบกับการทาครีมบำรุงผิว
การทำทรีตเมนต์เหมาะ หรือไม่เหมาะกับใคร
การทำทรีตเมนต์เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าต่างๆ เช่น ผิวหมองคล้ำ ดูไม่สดใส ผิวแห้งกร้าน มีริ้วรอย มีปัญหาสิว
- ผู้ที่ต้องการพักผ่อนผิวหน้า
- ผู้ที่ทาครีมบำรุงผิวหน้าแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลช้า
- คนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง พักผ่อนไม่เพียงพอ
- คนที่ต้องการใช้ผิวหน้าอย่างเร่งด่วน ต้องออกงาน
ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการทำทรีตเมนต์
- ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย เนื่องจากส่วนผสมบางตัวจะผลัดเซลล์ผิวอาจเกิดการระคายเคืองได้ ควรระมัดระวังในการทำ และเลือกการทำทรีทเม้นท์ที่เหมาะกับสภาพผิว
- ผู้ที่มีผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่กำลังกำเริบบนใบหน้า
- ผู้ที่มีแผลบนใบหน้าใหม่ๆ หรือมีแผลเป็นที่เกิดขึ้นใหม่ ควรที่จะรอจนแผลหายสนิทก่อนจึงสามารถที่จะทำได้
การทำทรีตเมนต์ควรทำบ่อยแค่ไหน ?
เพื่อการบำรุงผิวหน้าอย่างต่อเนื่อง การทำทรีทเม้นท์นั้นควรทำเป็นประจำติดต่อกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วงแรกที่เริ่มทำ จากนั้นสามารถเว้นระยะเวลาในการทำเป็นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ครั้ง ซึ่งหากทำอย่างต่อเนื่องเช่นนี้จะไม่ได้ทำให้ผิวนั้นบาง แต่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีและคงสภาพผิวให้สุขภาพดี แข็งแรง
ทรีตเมนต์ที่ เมอร์ซี่คลินิกมีแบบไหนบ้าง ?
- Mask Collagen เป็นการทำทรีตเมนต์โดยการบำรุงผิวด้วยมาสก์เข้มข้นช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ลดการระคายเคือง เสริมชั้นผิวให้แข็งแรง กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้มากกว่าการทาครีม
- Supersonic เป็นการทำทรีตเมนต์โดยใช้เครื่องผลักวิตามินเข้าผิวหน้า ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้าน และมีมาสก์หน้าคอลลาเจน ผิวจะรู้สึกนุ่ม ชุ่มชื้น แลดูเรียบเนียนและกระชับ ช่วยลดเลือนรอยต่างๆ ริ้วรอยแห่งวัยแลดูจางลง ปลดล็อคให้ผิวดูอิ่มน้ำ ผิวหน้าเด้ง
- Bio Light Theraphy เป็นการฉายแสง LED ช่วยบำบัดดูแลผิวพรรณ โดยใช้ความเข้มแสงสูงเข้าถึงระดับเซลล์ ช่วยกระตุ้นกลไกการฟื้นฟูของเซลล์ผิวได้ โดยแสงที่ใช้รักษาจะมีหลายสี ซึ่งแสงแต่ละสีจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เพื่อบำบัดผิว แก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป
- แสงสีฟ้า (Blue light) ช่วยรักษาสิวและลดการอักเสบของสิว ทั้งสิวอักเสบที่เกิดจากสารสเตียรอยด์ สิวอุดตัน ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว (P.Acne) และลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ อีกทั้งยังช่วยควบคุมความมันได้อีกด้วย
- แสงสีเหลือง (Yellow light) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำเพราะแสงสีเหลืองมีคุณสมบัติที่ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใส ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ อีกทั้งยังรักษาเส้นเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนัง และช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น
- แสงสีแดง (Red light) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีสาสตินในชั้นเซลล์ จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ดๆ บนใบหน้า ปรับผิวให้เรียบเนียน อิ่มฟู อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบของผิว หากใครเป็นสิวแสงสีแดงจะช่วยให้ผิวบริเวณที่เป็นสิวแข็งแรงขึ้นโดยไม่ทิ้งรอยแดง
- แสงสีเขียว (Green light) มีคุณสมบัติในการรักษารอยดำ ช่วยลดการสร้างเม็ดสี ปรับสีผิวให้กระจ่างใส รักษารอยแดง เช่นเดียวกับแสงสีเหลือง แต่จะนิยมใช้ลดรอยดำมากกว่า อีกทั้งยังช่วยรักษาอาการแพ้ต่างๆ ได้
การดูแลตนเองหลังทำทรีตเมนต์
- หลังทำให้หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง และควรทาครีมกันแดดอยู่เสมอ
- งดการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินเอ เป็นเวลา 72 ชม. หลังทำ
- สามารถใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่ใช้อยู่เป็นประจำได้ตามปกติ
- งดการสครับผิวหลังทำประมาณ 48 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ผิวนั้นบอบบางได้
- สามารถแต่งหน้าหลังทำได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีและน้ำหอม